ในวงการกีฬาฟุตบอล ก็มีเรื่องที่สามารถทำให้กระทบกระเทือนจิตใจของใครหลายๆคนได้ อย่างที่หลายๆคนทราบ ในวงการฟุตบอลนั้นมี ประเพณี ทีมคู่แข่งให้ต้นสังกัดเก่าและแฟนบอลได้ปวดใจอยู่เป็นบ้าง บางเรื่องที่เกิดขึ้นก็ดี บางเรื่องก้ไม่ดีบ้าง และนี่คือ 10 นักเตะผู้อาจหาญย้ายซบทีมคู่อริแบบไม่เกรงใจใครหน้าไหน nbaสด
10. นิค บาร์มบี้
เอฟเวอร์ตัน ไป ลิเวอร์พูล – 6 ล้านปอนด์, ปี 2000
นี่คือนักเตะคนแรกในรอบ 41 ปีนับตั้งแต่ เดฟ ฮิคสัน ที่ย้ายข้ามสวนสาธารณะสแตนลีย์พาร์คพร้อมกับเปลี่ยนอาภรณ์จากสีนำ้เงินเป็นแดง หลังกองกลางร่างเล็กกลายเป็นที่จดจำจากการพูดวลีที่ประธานสโมสรท็อฟฟี่ บิลล์ เคนไรท์ ให้คำจำกัดความว่าเป็นถ้อยคำที่เลวร้ายที่สุดในภาษาอังกฤษอย่าง “ผมต้องการย้ายไปลิเวอร์พูล” ซึ่งนั่นทำให้เขาได้ฉายาว่าเป็น “จูดาส” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยความที่สัญญาเหลืออีกเพียงปีเดียว ทำให้ วอลเตอร์ สมิธ กุนซือเอฟเวอร์ตันในตอนนั้นต้องจับขึ้นบัญชีขายแทบจะทันทีที่ถูกร้องขอ “นิคบอกกับเราว่าเขาอยากย้ายไปลิเวอร์พูล และลิเวอร์พูลก็ได้สอบถามเข้ามาแล้ว ซึ่งตอนนี้เราก็ได้รอข้อเสนอเข้ามาอย่างเป็นทางการ”
“นิค บาร์มบี้ ถูกขึ้นบัญชีขายทันที แน่นอนว่าเราผิดหวังกับสิ่งนี้มาก” nbaสด
ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ย้ายสมใจและลงเตะไป 46 นัดรวมทุกรายการช่วยให้ “หงส์แดง” คว้าเทรเบิลแชมป์บอลถ้วยทั้งลีก คัพ, เอฟเอ คัพ และยูฟ่า คัพ อย่างยิ่งใหญ่ ก่อนจะได้ลงสนามแค่ 11 เกมในซีซั่นถัดมา และย้ายซบลีดส์ในเดือนสิงหาคม 2002 ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 2.75 ล้านปอนด์
9. เฟร์นานโด ตอร์เรส
ลิเวอร์พูล ไป เชลซี 50 ล้านปอนด์, ปี 2011
“หงส์แดง” กับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เคยสู้กันอย่างถึงพริกถึงขิงทั้งในลีกและแชมเปี้ยนส์ลีก ในยุคที่ ราฟา เบนิเตซ และ โชเซ่ มูรินโญ่ กุมบังเหียน และ เฟร์นานโด ตอร์เรส นี่เองคือตัวแสบที่ชอบยิงทีมจากลอนดอนทีมนี้
อย่างไรก็ตามเมื่อทีมจบอันดับ 7 ใน ผลบอลพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2009/10 พร้อมกับการถูกปลดของกุนซือเพื่อนร่วมชาติอย่างเบนิเตซ ทำให้อนาคตของเขาถูกตั้งไว้บนเครื่องหมายคำถาม ยิ่งเจ้าตัวเพิ่งคว้าแชมป์โลกกับสเปนด้วย คงทำให้มีความรู้สึกว่าแอนฟิลด์เล็กไปสำหรับเขา “ในที่สุดหลังจากที่มีการเจรจากันมา 12 วัน ผมก็ได้มาอยู่ที่นี่ผมรู้สึกมีความสุขและภาคภูมิใจจริงๆ เพราะเชลซีคือที่สุดแล้ว ผมดีใจมากที่ก้าวมาถึงระดับสุดยอดได้” ตอร์เรสกล่าวในวันเปิดตัว
8. เอริก คันโตน่า
ลีดส์ ไป แมนฯ ยูไนเต็ด – 1.2 ล้านปอนด์, 1992
สมัยที่ลีดส์ยังอยู่ในลีกสูงสุด คู่นี้เจอกันทีไรหวดกันไฟแลบ จนถูกขนานนามว่าเป็น “สงครามแห่งดอกกุหลาบ” เลยทีเดียว เนื่องจากทั้งสองทีมมีเกียรติประวัติอันยาวนาน และยังมีความขัดแย้งกันมาก่อนทางประวัติศาสตร์อีกด้วย
ในตอนแรกมันเป็นดีลที่ลีดส์ต้องการจะซื้อนักเตะจากแมนฯยูไนเต็ด แต่กลายเป็นว่าเป็นฝ่ายเสียนักเตะไปเสียอย่างนั้น ซึ่งมันได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้พบกับเอ็ดเวิร์ดส์และพูดถึงเป้าหมายการเสริมทัพ พร้อมกับบ่นว่ายูไนเต็ดน่าจะซื้อคันโตน่าก่อนที่เขาจะย้ายไปลีดส์ ไม่ทันขาดคำก็มีเสียงโทรศัพท์เข้ามาโดยมีปลายสายเป็นโฟเธอร์บี้ “มันเป็นช่วงที่ล่กเอามากๆ” เฟอร์กี้กล่าว
โดยผู้อำนวยการบริหารของลีดส์ได้ติดต่อเพื่อจะขอซื้อเออร์วิน อดีตเด็กปั้นของตัวเองกลับไปร่วมงานอีกครั้ง ซึ่งเอ็ดเวิร์ดส์ก็ปฏิเสธไปพร้อมกับถามถึงความเป็นไปได้ในการซื้อ ลี แชปแมน หัวหอก “ยูงทอง” แต่เฟอร์กูสันก็พยายามกระซิบกระซาบพลางทำสัญญาณมือให้เอ็ดเวิร์ดส์เข้าใจ และเมื่อมันไม่เวิร์ค กุนซือชาวสก็อตเลยใช้เขียนชื่อลงในเศษกระดาษแทน ซึ่งในตอนแรกได้รับการปฏิเสธจากทางลีดส์ก่อนจะเซย์เยสในอีกหนึ่งชั่วโมงให้หลัง แน่นอนว่ามันก็ได้เปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาสตร์และทำให้สาวก “ยูงทอง” ยังเจ็บใจมาจนถึงทุกวันนี้
7. คาร์ลอส เตเวซ
แมนฯ ยูไนเต็ด ไป แมนฯ ซิตี้ – 47 ล้านปอนด์, ปี 2009
นี่คือจุดเริ่มต้นของความเป็น “เพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญ” ของสองทีมยักษ์ใหญ่แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ในทศวรรษนี้ เมื่อ “ปีศาจแดง” ไม่อาจต้านทานอำนาจเงินของทีมคู่ปรับร่วมเมืองจนทำให้เสียกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยุโรปปี 2008 ไปในที่สุด
“มันมีข่าวลือออกมา ซึ่งไม่ได้มีการยืนยันนะว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้จ่ายถึง 47 ล้านปอนด์ แต่เตเวซเองก็ได้คุยกับเชลซีด้วย ซึ่งผมคิดว่าที่ปรึกษาของเขาคงอยากสร้างอำนาจต่อรองมากกว่า ว่ากันว่าเชลซีเสนอให้ 35 ล้านปอนด์ ทำให้ซิตี้เป็นฝ่ายชนะ ซึ่งมันจำนวนที่เหลือเชื่อมากๆ ผมไม่จ่ายเงินมากขนาดนั้นเด็ดขาด ถึงเขาจะฝีเท้าดีแค่ไหนก็เถอะ” เซอร์ อเล็กซ์ กล่าว
6. โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
อาร์เซนอล ไป แมนฯ ยูไนเต็ด – 22.5 ล้านปอนด์, ปี 2012
ด้วยความเป็นไม้เบื่อไม้เมากันระหว่าง เซอร์ อเล็กซ์เฟอร์กูสัน กับ อาร์แซน เวงกอร์ ทำให้ไม่เคยมีนักเตะของทั้งสองทีมย้ายข้ามฝั่งกันเนื่องจากศักดิ์ศรี และยิ่งกับคนเป็นกัปตันทีมแล้วจึงดูไม่น่าเป็นไปได้เลย จนกระทั่งหน้าร้อนของปี 2012
“ผมไปอ่านเจอว่าสัญญาของฟาน เพอร์ซี่ กำลังจะหมดลง แต่ผมมั่นใจว่าอาร์เซนอลจะต่อสัญญากับเขาได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามตอนใกล้จะจบฤดูกาล 2011-2012 เซ้นส์ผมมันบอกแรงขึ้นว่าเขาจะไม่อยู่ลอนดอนเหนืออีกต่อไป” เฟอร์กูสันเผยถึงเบื้องหลังดีลนี้
“เอเย่นต์ของเขาติดต่อมาหาเรา ในตอนนั้นเขากำลังคุยอยู่กับแมนฯซิตี้ แต่เขาบอกเราว่าฟาน เพอร์ซี่ สนใจจะคุยกับเรามากๆ จนในที่สุดซิตี้ก็ได้ถูกบอกว่าเขาจะไม่ไปร่วมทีมด้วย ทีนี้เลยเหลือแค่เรากับยูเวนตุส ซึ่งผมเข้าใจว่าจะต้องเสนอค่าเหนื่อยให้อย่างงามแน่นอนเพื่อให้เขาไปตูริน ดังนั้นเราจึงยื่นข้อเสนอที่ดีพอที่จะทำให้รู้ว่าเราเคารพฝีเท้าของเขา” และเจ้าตัวก็เป็นกลจักรสำคัญที่ทำให้ “ปีศาจแดง” คว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 20 ได้สำเร็จ
5. มาริโอ เกิตเซ่ nbaสด
ดอร์ทมุนด์ ไป บาเยิร์น มิวนิค – 31.5 ล้านปอนด์, ปี 2013
ถึงจะถือกำเนิดจากแคว้นบาวาเรียน แต่ก็ได้รับการฝึกปรือมาจากโรงเรียนลูกหนังของดอร์ทมุนด์ ทำให้แฟนบอลรู้สึกว่า “เมสซี่เยอรมัน” คือ “ผู้ทรยศ” ในสายตาของเขา ระหว่างปี 2009 ถึง 2013 เกิตเซ่คือส่วนสำคัญที่ทำให้ “เสือเหลือง” คว้าแชมป์บุนเดสลีกาสองสมัย และเดเอฟเบ โพคาล อีก 1 สมัย พร้อมกับพาทีมทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกปี 2013
ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับสตาร์ดอร์ทมุนด์รายอื่นที่ย้ายไปบาเยิร์นอย่าง มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์ หรือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ นั้นถือว่าต่างกัน เพราะเกิตเซ่คือเด็กปั้นของสโมสรที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่ 9 ขวบ และนั่นทำให้แฟนพันธุ์แท้ของดอร์ทมุนด์ถึงกับชูป้ายขนาดใหญ่ในนัดที่ทั้งสองทีมพบกันเมื่อ 3 ปีก่อนว่า “พลังเงินได้แสดงให้เห็นแล้วว่าจิตใจคนเป็นยังไง ไอ้สารเลวเกิตเซ่”
4. แอชลี่ย์ โคล
อาร์เซนอล ไป เชลซี – 5 ล้านปอนด์บวก วิลเลี่ยม กัลลาส, ปี 2006
ดีลครั้งนี้จะขึ้นมาอยู่อันดับ 4 เป็นไม่ได้ หากไม่มีความอุกอาจของเชลซีและความหน้าเงินของ แอชลี่ย์ โคล เข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อโคลนั้นคือเด็กปั้นของ “ปืนใหญ่” แท้ๆ ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นขาประจำในทีมชาติอังกฤษ ก่อนจะโดนอำนาจเงินจากเชลซีเข้าแทรกแซงเมื่อปี 2005 จนเป็นเหตุให้อาร์เซนอลฟ้องว่าทางทีมดังแห่งสแตมฟอร์ด บริดจ์ มีการทาบทามซื้อ-ขายนักแตะแบบผิดกฏโดยที่ไม่ผ่านต้นสังกัดด้วยการนัดเจอกันอย่างลับๆ จนทั้งโคล, โชเซ่ มูรินโญ่, เชลซี และเอเย่นต์ของโคลอย่าง โจนาธาน บาร์เน็ตต์ โดนปรับกันถ้วนหน้า
โดยเจ้าตัวได้รำลึกถึงตอนที่เจรจาสัญญาใหม่กับ “เดอะ กันเนอร์ส” ที่ทางสโมสรยื่นมา 55,000 ปอนด์ว่า “ผมเกือบจะหลุดโค้งแน่ะ ‘เขา (เดวิด ดีน รองประธานสโมสรอาร์เซนอล) โคตรกดค่าเหนื่อยเลย โจนาธาน!’ ผมตะคอกใส่เอเย่นต์ทางโทรศัพท์ ผมรู้สึกคลั่งมาก มือไม้สั่นไปหมด แทบไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน ผมคิดว่าทุกอย่างมันแย่ลงเรื่อยๆนับตั้งแต่นั้น”
3. ไมเคิล โอเว่น
นิวคาสเซิล ไป แมนฯยูไนเต็ด – ไม่มีค่าตัว, ปี 2009
ที่จริงสำหรับนักเตะทั่วไปแล้ว การย้ายจากนิวคาสเซิลไปแมนฯยูไนเต็ดคงไม่เกิดผลอะไรนัก แต่กับโอเว่นซึ่งเป็นเด็กปั้นแท้ๆของ “หงส์แดง” และได้รับความรักอย่างมากมายจากมวลมหาชน “เดอะ ค็อป” ซึ่งจากการที่แฟนบอลตั้งฉายาให้เขาว่า “เดอะ เซนต์” เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขามองว่าศูนย์หน้าร่างเล็กรายนี้ประเสริฐขนาดไหน นั่นทำให้สาวกลิเวอร์พูลเกิดอาการยี้กับการย้ายครั้งนี้กันถ้วนหน้า แม้ว่าจะแวะพักที่เรอัล มาดริด กับนิวคาสเซิลมาก่อนหน้านั้นแล้วก็ตาม ข่าวบาส
เป็นที่รู้กันว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นั้นติดตามฝีเท้าของโอเว่นมาตั้งแต่อายุ 12 ขวบ แต่ในใจของ “เบบี้โกล” ตอนนั้นมอบให้กับลิเวอร์พูลไปแล้วเต็มใบ จนกระทั่งอีก 17 ปีต่อมาก็ได้ลายเซ็นของดาวยิงร่างเล็กรายนี้เป็นผลสำเร็จ
“ผมรู้ว่าเขาเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์ ผมเลยเชิญเขามาที่บ้านและยื่นข้อเสนอว่าเขาจะได้รับค่าจ้างตามผลงาน ซึ่งเขาดีใจสุดๆเลยทีเดียว” เซอร์ อเล็กซ์ กล่าว “ถึงเขาจะมีอาการบาดเจ็บบ่อยแต่เขาก็มีสถิติการทำประตูที่ดีมากในเกมระดับสูง”
ขณะเดียวกันโอเว่นก็ได้พูดถึงดีลนี้ว่า “ผมกำลังเริ่มคุยกับสโมสรอื่น แล้วเซอร์ อเล็กซ์ก็โทรมาหาผมในช่วงบ่ายวันพุธเพื่อชวนไปกินข้าวเช้ากับเขาในวันต่อมา และระหว่างที่กินข้าวกับเขาก็บอกกับผมว่าเขาอยากจะเซ็นสัญญากับผม”
“ผมตอบตกลงโดยที่ไม่ต้องคิดเลย นี่คือโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่สุดหรับผม”
2. หลุยส์ ฟิโก้
บาร์เซโลน่า ไป เรอัล มาดริด – 37 ล้านปอนด์, ปี 2000
ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าทั้งสองทีมนี้มีความบาดหมางกันมากกว่าแค่เรื่องฟุตบอลธรรมดา แต่ก็ยังกล้าๆแหกธรรมเนียมจนเป็นที่มาของหัวหมูอันลือลั่น เราจึงยกที่สองให้แก่เขาไปโดยดุษฎี เขาคือขวัญใจของแฟนบอลตลอดระยะเวลา 5 ปีในถิ่นคัมป์ นู แต่สถานะดังกล่าวก็เปลี่ยนไปเมื่อก้าวสู่ยุคมิลเลนเนียม
“เช้านี้ฟิโก้ทำให้ผมประทับใจ เมื่อเขาบอกว่าเขาต้องการจะทำสองอย่าง หนึ่งคือทำเงินให้มากขึ้น สองคืออยู่กับบาร์เซโลน่า” ข่าวบาส
โดยเมื่อไม่กี่วันก่อนที่จะมีการประกาศย้ายทีมนั้น เจ้าตัวยังสวมเสื้อของบาร์ซ่าลงหนังสือพิมพ์สปอร์ตพร้อมกับปฏิเสธทุกข่าวลือเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองอยู่เลย อย่างไรก็ตามขณะที่มีการพูดคุยเรื่องสัญญาใหม่กับ “เจ้าบุญทุ่ม” ก็มีรายงานว่าเอเย่นต์ของฟิโก้แอบไปตกลงทำสัญญาลับๆ กับ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ โดยมีค่าปรับกันเจ้าตัวกลับใจอยู่ที่ 18.75 ล้านปอนด์ด้วยกัน และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของ “กาลาคติกอส” อันโด่งดังไปในที่สุด
1. โซล แคมป์เบลล์
สเปอร์ส ไป อาร์เซนอล – ไม่มีค่าตัว, ปี 2001
จากการที่เป็นทั้งลูกหม้อและกัปตันทีมของ “ไก่เดือยทอง” ทำให้การย้ายไปสู่คู่ปรับร่วมถิ่นลอนดอนเหนือชนิดที่ต้นสังกัดเก่าไม่ได้อะไรสักแดง ทำให้เขาอยู่ในอันดับ 1 ของชาร์ทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อดีตเซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอังกฤษรายนี้ขึ้นหิ้งเป็นตำนานในถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน หลังจากลงเล่นไปกว่า 250 นัดตลอดระยะเวลา 9 ปี จนกระทั่งกลายมาเป็น “จูดาส” เมื่อย้ายไปอยู่กับคู่ปรับตลอดกาลอย่างอาร์เซนอล โดยในตอนนั้น “ไก่เดือยทอง” ถึงขนาดยอมทุบโครงสร้างเงินเดือนเพื่อรั้งให้กัปตันทีมของพวกเขาอยู่ต่อไป ซึ่งเจ้าตัวเองก็ออกมาเผยต่อสาธารณชนเองด้วยว่าจะอยู่ช่วยทีมต่อ ข่าวบาส
“การย้ายไปอาร์เซนอลถือเป็นก้าวกระโดดอันยิ่งใหญ่สำหรับผม อาร์เซนอลดีกว่าสเปอร์สทุกอย่างในตอนนั้นไม่ว่าจะเป็นนักเตะ, การจัดการ, ความมุ่งมั่นของสโมสร รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวก” “ผมต้องการจะพัฒนาตัวเองทั้งในแง่ของตัวบุคคลและในฐานะนักฟุตบอล ผมคิดว่ามันคือสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยทำให้ตัวเองเลยทีเดียว”
ที่มา FourFourTwo